24 มี.ค. 2557

เครื่องปรับอากาศ

เครื่องปรับอากาศ หรือเรียกเป็นภาษาพูดว่า แอร์ (อังกฤษ: Air conditioner, aircon) คือเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ใช้สำหรับปรับอุณหภูมิของอากาศในเคหสถาน เพื่อให้มนุษย์ได้อาศัยอยู่ในที่ที่ไม่ร้อนหรือไม่เย็นจนเกินไป หรือใช้รักษาภาวะอากาศให้คงที่เพื่อจุดประสงค์อื่น เคหสถานในเขตศูนย์สูตรหรือเขตร้อนชื้นมักมีการติดตั้งเครื่องปรับอากาศเพื่อลดอุณหภูมิให้เย็นลง ตรงข้ามกับในเขตอบอุ่นหรือเขตขั้วโลกใช้เพื่อเพิ่มอุณหภูมิให้สูงขึ้น (อาจเรียกว่า เครื่องทำความร้อน) เครื่องปรับอากาศมีทั้งแบบตั้งพื้น ติดผนัง และแขวนเพดาน ทำงานด้วยหลักการการถ่ายเทความร้อน กล่าวคือ เมื่อความร้อนถ่ายเทออกไปข้างนอก อากาศภายในห้องจะมีอุณหภูมิลดลง เป็นต้น และเครื่องปรับอากาศอาจมีความสามารถในการลดความชื้นหรือการฟอกอากาศให้บริสุทธิ์ด้วย

ขนาดของเครื่องปรับอากาศ มีหน่วยเป็น บีทียู ต่อ ชั่วโมง (BTU/hr) (บีทียู เป็นหน่วยของความร้อน) เป็นค่าความสามารถในการลดพลังงานความร้อนของเครื่องปรับอากาศ โดยการลดพลังงานความร้อน 1    บีทียู จะทำให้น้ำบริสุทธิ์ที่หนัก 1 ปอนด์ (ประมาณ 453.6 มิลลิลิตร) เย็นลง 1 องศาฟาเรนไฮต์ 5/9 องศาเซลเซียส)

ประเภทของเครื่องปรับอากาศภายในบ้านเรือน ถ้าแบ่งตามลักษณะตำแหน่งของแฟนคอยล์ ยุนิท (ตัวพัดลมที่เป่าความร้อนออกไปภายนอก) จะแบ่งได้ 2 ประเภท คือ

1.แบบชิ้นเดียว - หรือที่พวกเราคุ้นเคยในในชื่อ แอร์ฝังหน้าต่าง/ผนัง ตัวแฟนคอยล์ ยุนิตจะอยู่เป็นชิ้นเดียวกับตัวคอนเดนซิ่ง ยุนิต (ส่วนที่เป่าลมเย็นให้กับภายในห้อง) ข้อดีของเครื่องแบบนี้คือขนาดกะทัดรัด ติดตั้งง่ายเพราะไม่ต้องเดินท่อน้ำยาแอร์ แต่ข้อเสียคือ เสียงจะค่อนข้างดัง(โดยเฉพาะเมื่อมันเก่ามากๆ) แรงสั่นสะเทือนที่กระทำต่อตัวเครื่องและโครงสร้างของจุดที่ติดตั้งก็มีสูง และถ้าเครื่องมีขนาดขนาดใหญ่เกินไปจะมีปัญหาในการติดตั้ง เพราะบริเวณเพราะบริเวณช่องหน้าต่าง/ผนังไม่สามารถรับน้ำหนักมากได้ ต้องทำโครงสร้างมาช่วยค้ำจุนเพิ่ม

2.แบบแยกชิ้น - เป็นแบบที่เราเห็นกันได้ทั่วไปและนิยมมากที่สุด โดยตัวแฟนคอยล์ ยุนิตนั้นจะแยกไปติดตั้งภายนอกอาคาร ทำให่มีข้อดีคือเงียบ และมีรูปแบบให้เลือกค่อนข้างมาก ข้อเสียคือการติดตั้งที่จะค่อนข้างเสียเวลาเพราะต้องมีการเดินท่อน้ำยาแอร์

น้ำยาแอร์ปัจจุบันที่ใช้ในเครื่องปรับอากาศภายทั่วไปรวมถึงตู้เย็นและเครื่องปรับอากาศแบบส่วนกลางที่ใช้ในอาคารขนาดใหญ่ ในปัจจุบันมีชื่อเรียกทางเคมีว่า R-22 ส่วนน้ำยาแอร์สำหรับใช้ในรถยนต์มีชื่อเรียกทางเคมีว่า R-134A


ขอบคุณ : http://th.wikipedia.org/

6 ต.ค. 2556

เศรษฐกิจซบเซา น.ศ.ปริญญาเตะฝุ่นเป็นแสน

ผลสำรวจส.ค.จบปริญญาเตะฝุ่น140,000คน


รายงานข่าวจากสำนักงานสถิติแห่งชาติ (สสช.) เปิดเผยผลสำรวจภาวะการทำงานของประชากร เดือนส.ค.56 พบว่า มีจำนวนผู้ว่างงานกว่า 317,000 คน คิดเป็น 0.8% เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันปีก่อน 93,000 คน แต่ก็ลดลงเมื่อเทียบกับเดือนก.ย.ที่มีผู้ว่างงานถึง 355,000 คน ส่วนใหญ่เป็นผู้ว่างงานที่เคยทำงานมาก่อน โดยมีผู้ว่างงานจากภาคการค้าและบริการมากที่สุดถึง 104,000 คน รองลงมาเป็นภาคการผลิต และภาคเกษตรกรรม ซึ่งถ้าแยกออกเป็นภาคจะพบว่า ภาคใต้มีอัตราการว่างงานมากที่สุด รองลงมาคือ ภาคกลาง ภาคเหนือ กรุงเทพฯ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

ทั้งนี้เมื่อพิจารณาระดับการศึกษาที่สำเร็จของผู้ว่างงานทั้งหมด พบว่า ระดับการศึกษาที่มีผู้ว่างงานมากที่สุด คือระดับอุดมศึกษา 144,000 คน เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 53,000 คน หรือเพิ่มขึ้น 2% รองลงมาคือ มัธยมศึกษาตอนต้น 73,000 คน มัธยมศึกษาตอนปลาย 49,000คน ประถมศึกษา 39,000 คน และผู้ที่ไม่มีการศึกษาและต่ำกว่าประถมศึกษา 12,000 คน

ส่วนจำนวนผู้มีงานทำ พบว่า มีจำนวน 38.95 ล้านคน แบ่งเป็น ผู้ทำงานในภาคเกษตรกรรม 16.22 ล้านคน ลดลง 240,000 คน จากช่วงเดียวกันปีก่อน และนอกภาคเกษตรกรรม 22.73 ล้านคน ลดลง 350,000 คน โดยลดลงในสาขาการก่อสร้าง 220,000 คน สาขาขายส่งและการขายปลีกการซ่อมยานยนต์และรถจักรยานยนต์ 170,000 คน สาขาการผลิต 130,000 คน สาขาการขนส่งและสถานที่เก็บสินค้า 110,000 คน และสาขาการศึกษา 90,000 คน ส่วนสาขาที่เพิ่มขึ้นคือสาขากิจกรรมด้านสุขภาพ และงานสังคมสงเคราะห์ 140,000 คน และสาขากิจกรรมทางด้านการเงินและการประกันภัย 40,000 คน ส่วนที่เหลือกระจายอยู่ในสาขาอื่นๆ

อย่างไรก็ตามหากพิจารณาจำนวนผู้ที่ทำงานแต่ยังทำงานได้ไม่เต็มประสิทธิภาพ ซึ่งคนกลุ่มนี้เป็นผู้ทำงานแต่ยังมีเวลา และพร้อมที่จะทำงานได้อีก หรือเรียกว่า ผู้ทำงานต่ำกว่าระดับ จากผลการสำรวจ พบว่า มีผู้ที่ทำงานต่ำกว่าระดับ 359,000 คนหรือคิดเป็น 0.9% ของจำนวนผู้ทำงานทั้งหมด ซึ่งกลุ่มนี้แม้ว่าจะมีงานทำแล้วก็ตาม แต่ยังมีเวลาว่างที่มากพอและพร้อมที่จะทำงานเพิ่มขึ้น เพื่อต้องการเพิ่มรายได้ให้กับตนเอง

26 ส.ค. 2556

เฟอร์นิเจอร์กับไม้ยางพารา



ไม้ที่นำมาทำเฟอร์นิเจอร์มีหลายชนิด ขึ้นอยู่กับภูมิประเทศของดินแดนนั้นๆ ไม้สักคือไม้ชนิดหนึ่งที่คนไทยนิยมนำมาทำเฟอร์นิเจอร์ เพราะมีความแข็งแรง แมลงหรือตัวทำลายไม้ไม่นิยมเข้ามายุ่งเกี่ยวกับไม้สัก ไม้สักมีขนาดใหญ่พอเหมาะ ไม่ว่าไม้ขนาดใหญ่ก็สามารถทำเป็นโครงสร้างบ้าน หรือไม้ขนาดเล็กก็นำมาทำเป็นเฟอร์นิเจอร์ในบ้าน และไม้สักถือเป็นไม้มีคุณค่าในสังคมไทยจนถึงปัจจุบัน
ตั้งแต่ประเทศไทยมีกฎหมายปิดป่าห้ามตัดไม้สงวน ดังนั้น ไม้ยางพาราจึงเริ่มมีบทบาทในการทำเฟอร์นิเจอร์ เนื่องด้วย ราคาไม้พารามีต้นทุนน้อยมากในอดีต (หลังจากกรีดน้ำยางหมดแล้วก็เผาเป็นถ่านหรือฟืน) นอกจากนี้มีคุณสมบัติอื่นๆ เช่น มีความแข็งแรง เป็นไม้ลำต้นตรง มีตาไม้ไม่มากเกินไป และมีกำลังการเพาะปลูกเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งสภาพภูมิประเทศและอากาศร้อนชื้นของประเทศไทย มีความเหมาะสมในการปลูก

ขอบคุณ : วิกีพีเดีย

9 พ.ค. 2556

นอนให้ถูกท่า หมดปัญหาผิวชราก่อนวัย

เมื่ออายุมากขึ้น แน่นอนว่าผิวที่เคยเปล่งปลั่งดั่งวัยรุ่นก็เริ่มหย่อนคล้อย มีรอยตีนกา การเปลี่ยนแปลงนี้จะมีให้คุณสังเกตุเห็นตั้งแต่อายุ 25 ปี โดยเฉพาะกับคุณผู้หญิง ที่ต่างประโคมโลชั่นบำรุงต่างๆ นานาลงบนใบหน้าและผิวกาย เพื่อหวังว่าจะช่วยชะลอผิวสวยใสไร้ริ้วรอยเอาไว้ให้นานที่สุด

สาเหตุของผิวเหี่ยวย่นมีหลายประการ ถ้าตามหลักทางวิทยาศาสตร์ ผู้เชี่ยวชาญด้านผิวพรรณ ศึกษามาแล้วว่า ริ้วรอยที่เกิดบนผิวคนเรานั้นเป็นเรื่องธรรมดา เนื่องจากคนเรามีช่วงวัยที่ผิวจะเสื่อมสภาพ หรืออาจเกิดจากรรมพันธุ์ สภาพแวดล้อมที่เป็นอยู่ ความเครียด รวมไปถึงอาหารการกิินซึ่งเป็นสิ่งที่เรายังสามารถควบคุมและเรียนรู้ได้ว่าอาหาร และการใช้ชีวิตในสภาวะที่มีมลพิษ หรือแสงแดดที่คอยทำร้ายผิวนั้น เราควรปรับตัว และป้องกันได้อย่างไรบ้าง แต่นอกจากตัวช่วยที่สรรหามาเพื่อสุขภาพผิวที่ดี กับปัจจัยต่างๆ ที่พูดไปแล้วนั้น ทราบหรือไม่ว่าการนอนหลบไม่ถูกท่า ก็อาจเป็นตัวเร่งสำคัญให้เกิดริ้วรอยบนใบหน้าได้เช่นกัน เพราะเวลาที่เรานอนหลับ บางครั้งเราไม่สามารถควบคุมท่านอนให้เป็นไปอย่างที่ควรจะเป็นได้ตลอดทั้งคืน การนอนตะแคงซ้าย ขวา หรือนอนคว่ำใบหน้าซุกไปที่หมอนใบนุ่มนั้น ผิวหน้าของคุณจะถูกกดทับซ้ำแล้วซ้ำเล่า ในทุกช่วงเวลาที่คุณเข้านอน ทำให้เกิดริ้วรอยขึ้นเร็วกว่าช่วงวัยที่ควรจะเป็น ยิ่งถ้าคุณมีครอบครัวแล้วยิ่งไม่ควรมองข้ามเรื่องเล็ำกๆ น้อยๆ เหล่านี้ไปเด็ดขาด เพราะไม่มีคู่รักคนไหนที่อยากจะตื่นมาเห็นหน้าสดของภรรยา หรือสามีของตัวเองในสภาพยับย่นจนอยากจะหันหน้าหนีหรอกจริงไหม

ซึ่งท่านอนที่ถูกต้องจะส่งผลดีต่อสุขภาพร่างกาย ที่สำคัญช่วยส่งผลไปยังผิวใสไร้ริ้วรอยได้อีกด้วย นั่นคือการนอนหงายในลักษณะเหยียดตัวตรง นอกจากจะทำให้ผิวหน้าไม่ถูกกดทับแล้ว ยังส่งผลดีต่อกระดูกสันหลังของเรา ไม่ก่อให้เกิดโรคตามมาอีกด้วย และควรนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอด้วยการเข้านอนแต่หัวค่ำ เิริ่มตั้งแต่เวลาสี่ทุ่ม และไม่ควรเิกินเที่ยงคืน เพื่อให้ร่างกายได้สร้างสารต่อต้านอนุมูลอิสระ ที่ช่วยชะลอความแก่ให้มาช้าลง หรืออีกหนึ่งท่านอนที่ส่งผลดีต่อสุขภาพโดยตรง คือการนอนตะแคงขวา เพราะจะทำให้หัวใจเต้นสะดวก และช่วยอาหารที่ยังค้างอยู่ในกระเพาะถูกลำเลียงลงลำไส้เลก็ได้ดี และช่วยลดอาการปวดหลังได้อีกด้วย แต่แนะนำว่าควรนอนตะแคงในลักษณะแหงนหน้าขึ้น หลีกเลี่ยงการนอนตะแคงที่เอาหน้าคว่ำลงไปซุกอยู่กับหมอน ริ้วรอยจะได้ไม่ถามหานะคะ แต่หากหลีกเลี่ยงไม่ได้จริงๆ เพราะเป็นคนชองนอนคว่ำเป็นชีวิตจิตใจ ต้องระวังท่านอนคว่ำนี้จะทำให้ปวดคอ และหายใจไม่สะดวกได้ เนื่องจากหมอนสูงกว่าลำตัว และลำตัวกดทับหัวใจ อาจแก้ไขด้วยการใช้หมอนนุ่มๆ มารองที่ช่วงท้องและลำตัว ส่วนใบหน้าควรเลือกใช้หมอนที่ไม่แข็งเกินไป และปลอกหมอนที่ไร้รอยต่อของตะเข็บ เนื้อผ้าทอเต็มผืนจากเส้นใยที่มีคุณภาพ เพื่อลดอาการและรักษาสุขภาพของเราให้แข็งแรง อ่อนเยาว์ แต่อย่าลืมว่าควรทำสิ่งที่จำเป็นอื่นๆ ประกอบกับการนอนพักผ่อนให้เพียงพอ และถูกต้องตามหลักกายภาพไปด้วย เช่นควรดื่มน้ำให้มากขึ้น เพื่อเพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิว หมั่นออกกำลังกายเป็นประจำ เพื่อระบบการหมุนเวียนของเลือดที่ดี ที่จะส่งผลให้ผิวพรรณเปล่งปลั่นสดใส และเลือกรับประทานอาหารที่มีกากใยในทุกๆ มื้อ เพื่อสุขภาพของระบบขับถ่ายที่ดี ไม่มีสารพิษตกค้าง และเลี่ยงเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ การสูบบุหรี่ และแสงแดด ซึ่งถือเป็นศัตรูตัวฉกาจของผิว

หากคุณฝึกทำตามคำแนะนำด้านบนจนเป็นนิสัย และำทำอย่างสม่ำเสมอแล้วล่ะก็ เพียงเท่านี้ผิวพรรณของคุณ จะแลดูสดใสไร้ริ้วรอย อ่อนกว่าวัยไปอีกนานแล้วล่ะค่ะ


ขอบคุณ นิตยสาร TOTO

30 เม.ย. 2556

เสริมธรรมชาติในตัวบ้าน เสริมคุณภาพการนอนหลับ


คนส่วนใหญ่มักเข้าใจไปว่า การปลูกต้นไม้ในห้องนอนนั้นก็เท่ากับยอมให้ต้นไม้มาแย่งอากาศเราหายใจ แต่ทราบหรือไม่ว่า ต้นไม้บางชนิดก็เหมาะที่จะปลูกไว้ในห้องนอนเพื่อช่วยเพิ่มสีสัน สร้างความสดชื่นให้เจ้าของห้องโดยไม่เป็นอันตรายอย่างที่คิดค่ะ

อย่างที่ทราบกันดีว่าต้นไ่ม้จะคายก๊าซอ๊อกซิเจนออกมา และดูดซึมก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ที่เป็นพิษเข้าไปในเวลากลางวัน ส่วนช่วงกลางคืนนั้นจะสลับกันคือ ดูดก๊าซออกซิเจนเข้าไปและคายก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ออกมา และนั่นคือเหตุผลว่าทำไมเราจึงไม่ควรปลูกต้นไม้เอาไว้ในห้องนอน แล้วถ้าเราอยากจะสร้างความสดชื่นในห้องนอน และห้องอื่นๆ ภายในบ้านเราให้มีความสดชื่น จะมีต้นไม้ชนิดใดบ้างล่ะ ที่เราสามารถนำเข้ามาปลูกในห้องต่างๆ ภายในบ้านได้ โดยไม่เป็นอันตรายต่อระบบการหายใจในเวลากลางคืน

เรามาเริ่มจากห้องนอนกันก่อน นอกจากการจัดห้องนอนให้โปร่ง โล่ง ด้วยโทนสีที่สบายตาที่สุดสำหรับเราแล้ว เราสามารถแต่งเติมสีสันความสดชื่นเข้าไปด้วยลวดลายของชุดผ้าปูที่นอนที่ช่วยเพิ่มความสดชื่นและนุ่มสบายในชั่วโมงหลับใหลได้ด้วยลายดอกไม้หรือลายแพทเทิร์นสีสด เช่นเดียวกับการเพิ่มต้นไม้มีดอกบางชนิดเข้าไปวางไว้ในมุมโต๊ะเครืองแห้ง มุมห้อง หรือขอบหน้าต่าง ซึ่ง ดอกเยอบีร่า (Gerbera) คือไม้ดอกที่เหมาะแก่การปลูกในห้องนอนมากที่สุด เนื่องจากเป็นไม้ดอกที่มีลักษณะชูช่อโดดเด่น สง่างาม ดูปราดเปรียว แต่ในขณะเดีวกันก็มีสีสันที่อ่อนหวาน เปรียบดั่งผู้หญิงที่มีตวามมั่นใจในตัวเอง อีกทั้งยังช่วยปรับสภาพอากาศภายในห้องให้มีความชื้นที่พอเหมาะ ดูดซับกลิ่นอับอันไม่พึงประสงค์ในห้องได้ดี ทำให้คุณรู้สึกสดชื่นหลับสบายตลอดคืน


ส่วนใครที่ชอบสีเขียวของต้นไม้แล้วล่ะก็แนะนำว่าให้หาต้นหมากเหลือง เนื่องจากต้นไม้ชนิดนี้เวลาที่มันอยู่ในสภาพอากาศที่ชื้นเิกินไป มันจะคอยดูดซับความชื้นเข้าไปในขณะที่ถ้าอากาศในห้องแห้งเกินไป เจ้าต้นหมากเหลืองก็จะคายความชื้นออกมาในปริมาณที่พอเหมะ ถือเป็นต้นไม้ที่ช่วยปรับสมดุลความชื้นภายในห้องได้อย่างดี แม้ว่าใบของมันจะค่อนข้างเป็นพุ่มใหญ่ แต่ถ้าได้อยู่ในกระถางน่ารักๆ แล้วนำหินขาวก้อนเล็กๆ มาปิดหน้าดินก็ดูจะสวยงามเหมาะสำหรับวางเป็นของตกแต่งในห้องนอนได้แบบเก๋ไก๋ หรือถ้าห้องนอนมีพื้นที่จำกัด อยากจะหาแค่ต้นไ่ม้สีเขียวเล็กๆ มาวางประดับพร้อมได้ประโยชน์ต่อสุขภาพด้วย 



ต้นลิ้นมังกร ก็เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ไม่เลวนัก เพราะชอบคายก๊่าซออกซิเจนออกมาในเวลากลางคืน อีกทั้งลวดลายหินอ่อน และรูปใบเรียวไม่เกะกะ ลักษณะนี้ก็ได้รับความนิยมอยู่ไม่น้อย อีกหนึ่งต้นที่ได้รับความนิยมนำ้มาวางไว้ในห้องนอน โดยเฉพาะริมระเบียง นั่นคือ ต้นเศรษฐีเรือนใน ซึ่งนอกจากชื่อเรียกจะเหมาะกับศาสตร์ด้านฮวงจุ้ยแล้ว ต้นไม้ชนิดนี้ยังช่วยฟอกอากาศภายในห้องได้อย่างดี ที่สำคัญใบสีขาวขอบใบสีเขียวของมันยังสวยสง่าพริ้วลู่ลม มองแล้วสบายดีทีเดียว สุดท้ายที่อยากจะแนะนำให้ปลูกติดห้องไว้ โดยเฉพาะคุณผู้หญิงที่รักความสวยงาม ชอบทาเล็บ ล้างเล็บ ฉีดสเปรย์เพิ่มความสวยในห้องนอน คือ ต้นเดหลี หรืออีกชื่อคือ Peace Lily เพราะเจ้าต้นนี้มีคุณสมบัติพิเศษช่วยดูดซับกลิ่นจากสารเคมีต่างๆ ในอากาศได้ดี คราวนี้ก็สบายใจได้ว่ากลิ่นสารเคมีที่คุณผู้หญิงใช้กันจะไม่ไปสร้างรบกวนให้กับคนที่คุณรักอย่างแน่นอน

แม้ว่าการเสริมธรรมชาติจะช่วยสร้างคุณภาพในการนอนของคุณให้เพิ่มมากขึ้นแล้ว แต่นั้นก็ไม่ใช่ตัวช่วยที่จะดูแลสุขภาพของคุณได้ครอบคลุมทั้งหมด ถ้าจะให้ดีหมั่นดูแลสุขภาพของคุณได้ครอบคลุมทั้งหมด ถ้าจะให้ดีหมั่นดูแลรักษาความสะอาดภายในบ้าน และออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอเพื่อสุขาภาพที่ดีของคุณและคนที่คุณรักด้วยนะคะ อย่างไรแล้วการไม่มีโรคก็เป็นลาภอันประเสริฐเสมอค่ะ



ขอบคุณ นิตยสาร TOTO